ปลาร้าบอง/แจ่วบอง และวิธีทำปลาร้าบอง

60217

ปลาร้าบอง หรือเรียก แจ่วบอง จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากปลาร้า ด้วยการนำปลาร้ามาสับหรือใส่ทั้งตัว พร้อมกับผสมกับเครื่องเทศแล้วคลุกผสมให้เข้ากันจนได้ปลาร้าบองที่มีรสเค็ม มัน และเผ็ดหรือรสอื่นตามเครื่องปรุงที่ใส่

ปลาร้าบอง/แจ่วบอง จัดเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวอีสานที่เป็นต้นตำรับทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณตามวัฒนธรรมอีสานที่ทำปลาร้าบองสำหรับรับประทานกับข้าวเหนียว ทั้งในยามที่อยู่บ้านหรือออกทุ่งนา ซึ่งสามารถทำได้ง่าย พกพาง่าย เพียงขนาดสองสามช้อนก็ทำให้อิ่มได้

ในช่วงแรกๆ ปลาร้าบองยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกันสำหรับรับประทานเฉพาะในครัวเรือน แต่ปัจจุบัน มีการพัฒนาการผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายในท้องตลาดได้ด้วยการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆทั้งขวดแก้ว และพลาสติก พร้อมติดฉลากยี่ห้อให้มีความน่าเชื่อถือขึ้น

ชนิดปลาร้าบอง/แจ่วบอง ตามลักษณะปลาร้าที่ใช้
1. ปลาร้าบองสับ
เป็นปลาร้าบองที่นำตัวปลาร้ามาสับให้ละเอียด ก่อนนำคลุกหรือตำผสมกับเครื่องเทศ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งปลาร้าที่มีขนาดใหญ่ และปลาร้าขนาดเล็ก แต่ส่วนมากมักเป็นปลาร้าที่เป็นตัวขนาดกลางถึงใหญ่
2. ปลาร้าบองตัว
เป็นปลาร้าบองที่นำทั้งตัวปลาร้ามาคลุกผสมหรือตำกับเครื่องเทศ โดยไม่มีการสับตัวปลาร้าให้ละเอียด ทั้งนี้ ปลาร้าบองชนิดนี้ นิยมใช้ปลาร้าที่เป็นปลาขนาดเล็ก และชาวอีสานนิยมทำเฉพาะปลาร้าบองดิบ ไม่นิยมทำสุก

ชนิดปลาร้าบอง/แจ่วบอง ตามการปรุง
1. ปลาร้าบองดิบ
เป็นปลาร้าที่อาจทำได้ทั้งจากชนิดปลาร้าสับ และปลาไม่สับที่นำมาคลุกผสมเครื่องเทศ ก่อนจะรับประทาน โดยไม่มีการผ่านความร้อนหรือทำให้สุกก่อน

ปลาร้าบองดิบ

2. ปลาร้าบองสุก
เป็นปลาร้าที่อาจทำได้ทั้งจากชนิดปลาร้าสับ และปลาไม่สับที่อาจคลุกผสมเครื่องเทศแล้วจึงนำมาผ่านความร้อนจนสุกหรือทำปลาร้าให้สุกก่อนนำมาคลุกผสมเครื่องเทศ

ทั้งนี้ การคลุกผสมเครื่องเทศก่อนที่จะนำไปทำสุกจะทำให้ได้ปลาร้าบองสุกที่มีกลิ่นหอมมากกว่าปลาร้าบองสุกที่ผสมเครื่องเทศทีหลัง เพราะความร้อนจะช่วยให้กลิ่นหอมของเครื่องเทศออกมามากขึ้น

ปลาร้าบองสุก

วิธีทำปลาร้าบอง/แจ่วบอง
1. ปลาร้าบองดิบประเภทสับ
ส่วนผสม
1. ปลาร้า 0.5 กิโลกรัม
2. ข่า 3 หัว
3. หัวตะไคร้ 5 หัว
4. กระเทียม 5 หัว
5. หอมแดง 10 หัว
6. พริกป่น 2 ทับพี
7. มะขามเปียก 2 ช้อน
8. ใบมะกรูด 15 ใบ
9. มะเขือเทศ 3 ลูก
10. ผงชูรส 2 ช้อน

วิธีการทำ
1. นำตัวปลาร้ามาสับให้ละเอียด ซึ่งอาจสับทั้งตัวโดยไม่นำก้างออก (อีสานนิยมทำ) หรือนำมาเลาะเอาก้าง และกระดูกออกก่อนแล้วค่อยสับ
2. เตรียมเครื่องเทศต่างๆ ได้แก่
– นำตะไคร้ กระเทียม หอมแดง และมะเขือเทศมาอิงไฟให้ร้อน ก่อนซอยให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วตำบดให้ละเอียด ส่วนมะเขือเทศยังไม่ต้องตำ ให้ฝานเป็นชิ้นเล็กๆหรืออาจตำผสมด้วย แต่ให้ตำทีหลังที่เครื่องเทศอื่นละเอียดแล้ว
– ใบมะกรูดซอยเป็นฝอยเล็กๆ
– มะขามเปียกนำมาแช่น้ำประมาณ 3 ช้อน
3. นำเครื่องเทศที่ซอยไว้คลุกผสม ร่วมกับพริกป่น ผงชูรส และมะเขือเทศ ส่วนใบมะกรูดอาจคลุกผสมพร้อมหรือใช้โรยหน้าก็ได้ ซึ่งจะได้ปลาร้าบองสับพร้อมรับประทาน

2. ปลาร้าบองดิบทั้งตัว
ส่วนผสม
1. ปลาร้า ขนาดเล็ก 5-10 ตัว แล้วแต่ขนาด
2. ข่า 1 หัว
3. หัวตะไคร้ 1 หัว
4. กระเทียม 2 หัว
5. หอมแดง 2 หัว
6. พริกป่น 2 ช้อน
7. มะขามเปียก 1 ช้อน
8. ใบมะกรูด 5 ใบ
9. มะเขือเทศ 1 ลูก
10. ผงชูรส 1 ช้อนเล็ก

วิธีการทำ
1. นำตัวปลาร้าวางใส่ถ้วย พร้อมกับน้ำปลาร้าประมาณ 2 ช้อน
2. เตรียมเครื่องเทศเหมือนข้อที่ 2 ของการทำปลาร้าบองดิบแบบสับ
3. เทเครื่องเทศลงผสม พร้อมกับปรุงรสด้วยชูรส ซึ่งจะได้ปลาบองดิบทั้งตัวที่พร้อมรับประทาน

ข้อแนะนำ
1. การใส่มะเขือเทศมักทำให้ปลาร้าบองเสียง่ายเมื่อเทียบกับไม่ใส่ ซึ่งหากใส่จะเก็บได้นานประมาณ 3-5 วัน ตามตู้กับข้าว แต่เก็บในตู้เย็นจะได้นานประมาณ ครึ่งเดือนถึง 1 เดือน
2. เครื่องเทศที่เก็บมาสดๆ ควรอิงไฟให้ร้อนเสียก่อน โดยเฉพาะตะไคร้ ข่า กระเทียม และหอมแดง ส่วนใบมะกรูดไม่ต้องอิงไฟก็ได้ ซึ่งจะช่วยยืดอายุของปลาร้าบองที่สามารถเก็บรักษากินต่อได้นานขึ้น
3. สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสเปรี้ยว ก็ไม่ต้องใส่มะขามเปียก
4. สำหรับผู้ที่ชอบหวาน ให้เติมน้ำตาลเล็กน้อย

3. ปลาร้าบองสุกแบบสับ
ส่วนผสม
– ใช้ส่วนผสมเหมือนกับการทำปลาร้าบองดิบแบบสับ

วิธีการทำ
1. นำตัวปลาร้ามาสับให้ละเอียดตามข้อที่ 1 ของการทำปลาร้าบองดิบแบบสับ
2. เตรียมเครื่องเทศต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้น
3. นำปลาร้าที่สับแล้วมาคั่วให้สุก เมื่อสุกแล้วนำเครื่องเทศ และเครื่องปรุงลงผสม และคั่วต่ออีก 2-3 นาที ขณะคั่วให้ใช้ไฟอ่อน และหากไม่มีน้ำหรือแห้งมาก ให้เติมน้ำลงคั่วเป็นระยะ
4. นำลงตั้งไว้ให้เย็น ก็จะได้ปลาร้าบองสุกแบบสับพร้อมรับประทาน

ปลาร้าบอง